ชื่อพระ | เบี้ยแก้ชั้นครูหลวงพ่อคำ วัดโพธ์ปล้ำ จ.อ่างทอง |
รายละเอียดพระ | เบี้ยแก้ อ่างทอง หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ ยุคต้น ช่วงก่อน 2490 ในสภาพสมบูรณ์สุดๆ...จะเห็นวชันที่ปิดปากเบี้ยเป็นชันป่่าเพียวๆ หลังจากชันแห้งแล้ว จึงนำชันอีกชุดที่ผสมกับผงวิเศษแปะทับพร้อมแผ่นยันต์ ทำให้เห็นความแตกต่างของสีชันอย่างเห็นได้ชัด สภาพนี้ไม่ต้องไปหา ไม่มีแล้ว ส่วนมากจะเก็บกันหมด ไม่ต้องมีโค๊ตร้านเลี่ยม "หมง" มาให้ปวดหัวเรื่องตำหนิตัวอักษร เล่นแบบเปลือยๆแบบนี้สบายใจกว่า เจอเก้เลี่ยมปิดหลอกมาจะยิ่งไปกันใหญ่ ชันจะแห้งกรอบเหมือนเรือขึ้นคาน ไม่มีกลิ่นเหมือนชันใหม่ ..ซี่งของปลอมทำไม่ได้ในเรื่องกลิ่น ของปลอมทำออกมาเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ยังไงก้อมีกลิ่นชัน ส่วนพวกของปลอมที่เลี่ยมปิดมาจะใช้วัสดุอย่างอื่นมาปิดปากเบี้ยแทนเพื่อไม่ให้มีกลิ่น.... คำเตือน..อย่าพิสูตรว่าแท้โดยการดมกลิ่นชัน ว้่าชันแท้ต้องมีกลิ่น ...อายุชันนานขนาดนี้แล้วจะไม่มีกลิ่นเหมือนชันยาเรือใหม่ๆนะครับ #(ที่สำคัญ ชันป่าที่ใช้ปิดในยุคต้น จะไม่มีกลิ่น)หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ เบี้ยแก้ชั้นครู เบี้ยแก้ที่เลื่องลือแต่โบราณ ถอนคุณไสยเวท กันกระทำ เป็นมหาอุตม์ แม้แต่หมอฆารวาสผู้เรืองอาคมสมัยนั้นนามว่าโต๊ะราม ยังต้องให้ลูกชาย พกเบี้ยแก้ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ ติดเอวลูกชายโต๊ะรามถูกลอบยิงหลายครั้งแต่รอดมาได้ทุกครั้ง หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ พระอาจารย์ที่เสือมเหศวรให้ความเคารพมากๆ หลวงพ่อคำ เขียนยันต์ หนุมานเชิญธงไว้ให้ติดตัว ผ้านี้มีอานุภาพมาก ใช้เวลาขี่ม้าออกปล้น จะโบกสะบัดไปมา เป็นแคล้วคลาดและกำบัง เรื่องเสือมหเศวรนี้ยืนยันได้อย่างดีอย่างหนึ่งว่าท่านมีความเคารพในหลวงพ่อคำมาก จากคำบอกเล่าของคุณปู่ ทองชุบ ปัจจุบันอายุ 87 ปี คณะปี่พาทย์ที่ทางวัดโพธิ์ปล้ำ ใช้บริการเป็นประจำ เคยเล่าให้ผมฟังว่า งานวันเกิดหลวงพ่อคำ ปู่ทองชุบไปทำปี่พาทย์ เสือมเหศวร ขี่ม้ามากับลูกน้อง มีม้ามา 9 ตัว ทั้งหมดแต่งชุดเป็นทหาร ส่วนมเหศวร แต่งการด้วยชุดนายทหาร ยศร้อยเอก ปืนเหน็บเอวสองกระบอก เล่าแล้วยาว..พอสังเขปก่อนครับ เบี้ยแก้ ซึ่งถือว่าเป็นวัตถุมงคล ที่มีชื่อเสียงมาแต่โบราณ เบี้ยแก้หลวงพ่อคำ ต้นสายตำราก็มาจากหลวงพ่อพักตร์. วัดโบสถ์ ซึ่งหลายท่านอาจไม่ทราบ ซึ่งการสร้างเบี้ยแก้ในสายตำรานี้ สำคัญมากคือการเสกเบี้ยให้เป็น ส่วนปรอทนั้นถ้าว่ากันจริงๆไม่ต้องใส่ก็ยังได้ เบี้ยแก้ในสายนี้จะต้อง บูชาเทวดาประจำเบี้ยซึ่งสำคัญมาก และขั้นตอนมาก หลังจากนั้นจึงจะทำการเสกเบี้ย ส่วนปรอทที่นำมาใส่ด้วยเพราะเหตุว่าปรอทนั่นมีฤทธิ์ถ้าเสกเป็นแล้วใช้ได้สารพัดอย่าง ท่านจึงมาใส่ไว้คู่กัน ซึ่งเป็นการผสมผสานวิทยาการของบรมครูยุคโบราณ ซึ่งตามตำราที่หลวงพ่อพักตร์ท่านได้มาแต่ครูวาตนั้นเป็นตำราการเสกเบี้ย ให้เป็น ส่วนวิธีเรียกปรอทให้ได้ดั่งใจนึกนั้นท่านได้มาแต่หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย สมุทรปราการ ซึ่งหลวงพ่อคำท่านก็เรียกปรอทให้วิ่งเข้าเบี้ยได้ดุจมีชีวิตเช่นกัน แต่ท่านจะทำในยุคแรกๆไม่มาก ในตอนหลังใช้จับกรอกทั้งหมด เพราะเบี้ยแก้ท่านเลื่องลือมาก ไม่พอต่อความต้องการ จริงๆแล้วจะเรียกให้วิ่งเข้าหรือจับกรอกก็ไม่แตกต่างกันนัก เพราะใจความสำคัญอยู่ที่เสก ส่วนปรอทใส่เบี้ยของหลวงพ่อคำ ก็เป็นปรอทซัดด้วยว่านยาตามตำรา จนปรอทแข็งเป็นเม็ด ซึ่งต้องหุงเคี่ยวและผสมเติมว่านยาลงไป จนกว่าจะได้ที่ เพื่อฆ่าพิษปรอท เวลาเขย่าจึงดังแซ๊กๆ วิชาเบี้ยเป็นวิชาที่กัน และถอน แก้คุณไสยมนต์ดำ ของคนอื่นเขาที่ทำมา ผู้เสกต้องเก่งจริง และคัดของเขาได้ ไม่อย่างนั้นอายเขา หลวงพ่อคำ ถือว่ามีชื่อเสียงเลื่องลือมากด้านนี้ เล่าแล้วจะยึดยาวมาก เอาเป็นพอสังเขปเพียงเท่านี้ครับ ดูน้อยลง 6 แชร์ ![]() เขียนความคิดเห็น… |
หมวดหมู่ | อื่นๆ |
ร้านพระ | ธนาพระเครื่อง |
เบอร์โทรศัพท์ | 0892430808 |
เมื่อวันที่ | 2023-03-22 |
ยอดเข้าชม | 85 ครั้ง |
สถานะ | โทรถาม |