| ชื่อพระ | หลวงพ่อเอม |
| รายละเอียดพระ | เหรียญหล่อหลวงพ่อเอม ชินราช ปี 2470 วัดคลองโป่ง สุโขทัย 2 เหรียญ ประวัติหลวงพ่อเอม ข้อมูลประวัติทั้งหมดที่ได้มาจากท่านอาจารย์เสทื้อน เป็นผู้ค้นคว้าและนำมาเขียนต่ออีกทีถือว่าเป็นการเผยแพร่เกียรติคุณ และบารมีของหลวงพ่อหวังว่าท่านคงอนุญาต หลวงพ่อเอม เป็นชาวอำเภอศรีสำโรงโดยกำเนิด เกิดเมื่อปีวอก พ.ศ 2415 ต้นรัชกาลที่ 5 หลวงพ่อเป็นบุตรคนสุดท้อง โยมบิดาชื่อนายสน โยมมารดาชื่อ นางทิม ต่อมาเมื่อมีนามสกุลเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6ตระกูลหลวงพ่อจึงได้ใช้นามสกุล สนทิม โยมบิดา-มารดา มีอาชีพทำไร่ทำสวน บ้านเดิมหลวงพ่ออยู่เลยวัดไปประมาณ 300 เมตร ฝั่งเดียวกับวัด หลวงพ่อมีพี่น้องรวมทั้งหมด 5 คน คือ นายปลื้ม , นางคำ , นายเดช , นางจันทร์ และหลวงพ่อเอม หลวงพ่อบวชเป็นสามเณร ตอนอายุประมาณ 16-17 ปี แล้วใครจะรู้ว่าสามเณรองค์นี้ต่อมาจะกลายเป็นพระอริยะสงฆ์อันดับหนึ่งของสุโขทัย การศึกษา สันนิษฐาน ว่า เมื่อหลวงพ่อบวชเป็นสามเณรนั้น เป็นสมัยที่ หลวงปู่เหล็กเป็นเจ้าอาวาส หลวงปู่เหล็ก เป็นเกจิอาจารย์เรืองนาม เมื่อ 100 ปีมาแล้ว ท่านชำนาญในวิชาต่อกระดูกได้ เป็นที่อัศจรรย์ และหลวงปู่เหล็ก ก็น่าจะเป็น ปฐมาจารย์ ของหลวงพ่อด้วย หลังจากท่านบวชแล้วไม่นาน ท่านก็ลงมาศึกษาปริยัติธรรมที่วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ ซึ่งยุคนั้น หม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจารย์(ทัด เสนีย์วงค์) เป็นเจ้าอาวาส และในระหว่างที่อยู่วัดระฆัง หลวงพ่อยังได้ฝึกหัดเทศน์กัณฑ์ชูชก จากอาจารย์คนหนึ่งแถวคลองแสนแสบ ด้วยเหตุนี้ทำให้หลวงพ่อมีชื่อเสียงในการเทศน์เป็นอย่างมาก หลังจากท่านมาอยู่วัดระฆังได้ประมาณ 4-5 ปี ก็กลับมาอยู่วัดคลองโป่ง จากนั้นไม่นาน ท่านก็บวชเป็นพระภิกษุ โดยมีพระอุปัชฌาย์พุก วัดหนองโว้ง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากบวชได้กว่า 10 พรรษา พระอุปัชฌาย์นวมซึ่งตอนนั้นเป็นเจ้าอาวาสวัดคลองโป่งต่อจากหลวงปู่เหล็ก ได้มรณภาพลงคณะสงฆ์และชาวบ้านจึงพร้อมใจกันยกหลวงพ่อเอมขึ้นเป็นเจ้าอาวาสต่อไป เมื่อปี 2457 เมื่อ สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสได้เสด็จออกตรวจการณ์คณะสงฆ์ มณฑลฝ่ายเหนือ และเดินทางมาถึงศรีสำโรง ณ วัดศรีนิโครธาราม พระองค์ได้ทราบถึงความเดือดร้อนของชาวศรีสำโรงด้วยขาดพระอุปัชฌาย์หากใครปรารถนาจะบวชลูกหลานขึ้นมา ต้องนิมนต์พระอุปัชฌาย์จากสุโขทัยหรือสวรรคโลกซึ่งค่อนข้างไกลในสมัยนั้น จึงได้โปรดให้หลวงพ่อเอมเป็นพระอุปัชฌาย์โดยรับสั่งให้หลวงพ่อเอมลงมากรุงเทพฯ หลังจากที่พระองค์เสด็จกลับแล้วหลังจากนั้นไม่กี่วันท่านก็เสด็จกลับจากเมืองสวรรคโลก กลับกรุงเทพโดยทางรถไฟที่สถานีสวรรคโลก พระองค์ท่านได้ทรงหยุดแวะที่ศรีสำโรงด้วย ครั้งนั้น หลวงพ่อเอมได้กราบทูลเชิญเสด็จไปทอดพระเนตรวัดคลองโป่งด้วยพระองค์ได้ประทานพระธรรมเทศนาโปรดมหาชนที่วัดคลองโป่ง 1 กัณฑ์ แล้วเสด็จกลับ หลังจากนั้นไม่นาน หลวงพ่อเอมก็ลงมากรุงเทพฯตามพระบัญชาและได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระครูธรรมภาณโกศล เป็นพระอุปัชฌาย์ให้การอุปสมบทแก่บรรดากุลบุตรโดยทั่วไปได้ ในการนั้น หลวงพ่อเอมต้องเข้ารับใบประกาศสถาปนาดังกล่าวในอุโบสถวัดพระแก้วพร้อมกับบรรดาพระสังฆาธิการจากหัวเมืองต่างๆ ซึ่งต่างก็เป็น “ช้างเผือก” จากป่า ที่พระองค์เสด็จไปทรงพบ จากการตรวจการณ์ในครั้งนั้นเอง สมเด็จพระมหาสมณฯ ได้ทรงมีพระบัญชาให้ หลวงพ่อเอมตั้ง นะโม ฯ ให้พระองค์ท่าน และบรรดาพระสังฆาธิการที่ชุมนุมอยู้พร้อมกันในที่นั้นฟัง เล่ากันว่า ทันทีที่หลวงพ่อเอมตั้ง นะโมจบลง สมเด็จพระมหาสมณฯ ทรงมีรับสั่งกับบรรดาสังฆาธิการและพระสงฆ์ทรงสมณะศักดิ์ทั้งหลายที่ชุมนุมกันอยู่ในที่นั้นว่า “ต้องตั้งนะโมให้ได้อย่างองค์นี้”ทั้งนี้เนื่องจากเสียงของหลวงพ่อนั้นท่านเป็นผู้มีพรสวรรค์จริงๆดังก้องกังวาฬ ฟังแล้วต้องสะท้านในอารมณ์ เกิดความศรัทธาขึ้นมาในทันที่ประกอบกับจังหวะจะโคนที่เหมาะสมกลมกลืนเป็นอันดีใครได้ฟังหลวงพ่อเอมตั้งนะโมให้ศิลแล้ว ยากที่จะลืมเลือนได้ หลวงพ่อเอมได้ตำแหน่งเจ้าคณะเมืองสุโขทัย เมื่ออายุได้ประมาณ 50 ปี นอกจากหลวงพ่อเอม ท่านเป็นพระที่คงแก่เรียน แล้ว วิชาอาคมของท่านก็ไม่ธรรมดา มีเรื่องเล่ากันว่า ท่านรักษาคนที่สติไม่ดี หรือเป็นบ้า ได้ สมัยหลวงพ่อท่านยังอยู่ มีคนสติไม่ดี จำนวนมาก มาให้ท่านรักษา โดยบรรดาพวกญาติๆ จะล่ามโซ่ไว้ที่ศาลา เพื่อรอการรักษา เมื่อหลวงพ่อฉันข้าวเสร็จก็จะลงมาแล้วเอาถังน้ำที่ญาติแต่ละคนเตรียมไว้ สาดไปที่คนไข้ทันทีไม่มีการท่องมนต์อะไรให้ยุ่งยาก และก็ได้ผล ไม่เกิน 7 วัน คนไข้หายบ้าหมด ผมเข้าใจว่า ในระหว่างท่านฉันข้าวท่านคงเสกน้ำไปด้วยเรื่องมหาอุด คงกระพันชาตรี ถือว่าเป็นสุดยอดของท่านที่ลือชื่อมาจนปัจจุบันสมัยผู้เขียนยังเด็ก เห็นรถยีเอ็มซีของทหาร วิ่งผ่านบ้านหลายครั้ง ตรงไปวัดคลองโป่งสอบถามดูจึงรู้ว่า ทหารคนนั้นไปรบกับคอมมิวนิสต์ แถว อำเภอชาติกระการ นครไทยเขาค้อ แล้วถูกยิงจนกระดูกแตกหักทั่วร่างกาย แต่ไม่มีเลือดออกมาจากร่างกายแม้แต่หยดเดียว คนโบราณรุ่นเก่าเล่าว่าเวลาเขาทดลองพระกัน เขาเอาพระคล้องคอแล้วดวลกันคนละนัดเลย ถ้าไม่แน่จริงมีตายแต่ถ้าใครมีเหรียญหลวงพ่อรับรองได้ ไม่ได้กินเลือดร่ำลือมาจนทุกวันนี้แม้แต่เหรียญรุ่นหลัง ต่อๆ มาของหลวงพ่อ ก็ต้องใช้บารมีหลวงพ่อทุกครั้งคนเก่าๆเล่าว่าพระกรุวัดทับผึ้ง หลวงพ่อเอม ก็มีส่วนในการปลุกเสกด้วย หลวงพ่อเอมได้มรณภาพ ปลายปี พ.ศ.2484 อายุได้ 69 ปี “ เมื่อใจมีศรัทธา ปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นเสมอ “ |
| หมวดหมู่ | เหรียญหล่อ / ปั้ม |
| ร้านพระ | โชคเจริญทรัพย์ |
| เบอร์โทรศัพท์ | 0866278195 ID LINE 0866278195 |
| เมื่อวันที่ | 2021-10-06 |
| ยอดเข้าชม | 319 ครั้ง |
| สถานะ | โทรถาม |
กรุณารอสักครู่ ระบบกำลังอัพโหลดข้อมูล
อาจจะต้องใช้เวลาในการอัพโหลด ขึ้นอยู่กับความเร็วของสัญญารอินเตอร์เน็ต
