รายการพระเครื่อง

ชื่อ สมเด็จหลวงพ่อโอภาสี
ชื่อพระ สมเด็จหลวงพ่อโอภาสี
รายละเอียดพระ สมเด็จหลวงพ่อโอภาสี วัดบางมด กทม รุ่นแรก ด้านวัตถุมงคล หลวงพ่อโอภาสี ได้สร้างแจกตั้งแต่สมัยที่เป็นช่วงที่ประเทศไทยเข้าร่วมรบในสงครามพอดี ในยุคแรกท่านจะทำผ้ายันต์ ผ้าประเจียด เหรียญสตางค์รู แจกให้ลูกศิษย์ มีผู้นำไปใช้แล้วเกิดประสบการณ์ต่างๆ เช่น คงกระพัน ถูกยิงถูกฟันไม่เข้า แคล้วคลาดจากภยันตรายต่างๆ จนมีผู้คนมาขอของท่านมากขึ้น ท่านจึงได้สร้าง พระปิดตาเนื้อตะกั่ว และ พระพิมพ์เนื้อผงผสมดิน ซึ่งล้วนได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เกี่ยวกับเรื่องอภินิหารของหลวงพ่อโอภาสีนั้นดูจะมีหลายประการ โดยเฉพาะได้แก่การมีหูทิพย์ ตาทิพย์ และวาจาสิทธิ์ ท่านกล่าวคำใดออกมาไม่ใคร่จะพลาดจากคำนั้น ซึ่งอาจจะสืบจากผลการปฏิบัติอย่างแรงกล้าของท่านก็เป็นได้ มีเรื่องเล่าว่า เคยมีสุภาพสตรีสูงอายุท่านหนึ่ง มีความศรัทธาหลวงพ่อโอภาสีเหลือเกิน ถึงแก่ปรารภกับญาติพี่น้องที่บ้านว่า อยากได้เส้นผมของหลวงพ่อไว้บูชา ครั้นต่อมาสุภาพสตรีท่านนั้นไปนมัสการหลวงพ่อ พอก้มลงกราบ ยังไม่ทันจะกล่าวอะไรหลวงพ่อก็ยกมือจับเส้นผมของท่าน พร้อมกับบอกว่า"ผมของอาตมาสั้นออกอย่างนี้ จะตัดไปให้โยมได้อย่างไร" สุภาพสตรีท่านนั้นถึงแก่นั่งตกตะลึงพูดไม่ออก ครั้งหนึ่งได้มีสุภาพสตรีผู้สูงด้วยอำนาจวาสนาท่านหนึ่งพาบริวารไปนมัสการหลวงพ่อที่สวนส้มบางมด ได้สนทนาปราศรัยกับท่านเป็นอันดี ชั่วครู่หลวงพ่อเหลือบไปเห็นแหวนเพชรในนิ้วมือของสุภาพสตรีท่านนั้น เปล่งประกายสุกสกาวจึงถามว่า"ถ้าอาตมาจะขอแหวนวงนี้จากคุณโยม จะเสียดายไหม” สุภาพสตรีท่านนั้นถอดแหวนออกจากนิ้วนางประเคนท่านแทนคำตอบทันที ท่ามกลางความชื่นชมของบริวาร หลวงพ่อรับไว้ หยิบพลิกดูไปมาแล้วหันไปหยิบค้อนที่อยู่ข้างหลัง วางแหวนเพชรที่ไม่รู้ว่ากี่กะรัตลงบนพื้นแล้วตอกด้วยค้อนบัดนี้ สุภาพสตรีท่านนั้นเกือบเป็นลม หลวงพ่อโอภาสีมองหน้าพลางเปรยออกมาว่า "ของดีๆ อย่างนี้ จะสูญได้อย่างไร"สุภาพสตรีผู้นั้นหมดกำลังใจจะสนทนาต่อ อ้อมแอ้มๆ ออกมาสองสามประโยค ก็นมัสการลากลับไม่เหลียวหลัง ปรากฏว่าเย็นวันนั้น หลังจากอาบน้ำชำระกายเรียบร้อยแล้ว เปิดโถแป้งออกมา ตั้งใจจะหยิบแป้งขึ้นมาผัด กลับเห็นแหวนเพชรวงที่หลวงพ่อโอภาสีทุบจนแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ วางอยู่ในนั้นชัดแจ้ง เป็นวงแหวนสมบูรณ์เหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน อีกคราวหนึ่ง หลวงประเสริฐรัฐวิจารณ์ เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ขององค์การท่าเรือฯ ผู้รู้จักคุ้นเคยกับหลวงพ่อมาช้านาน ได้เข้าไปนมัสการและสนทนาด้วย จนได้เวลาพอสมควรจะลากลับหลวงพ่อกลับบอกว่าประเดี๋ยวก่อน แล้วท่านก็ลุกเข้าไปในอาศรมถือธนบัตรใบละ ๑๐๐ จำนวนสองใบมายื่นให้คุณหลวงพลางบอกว่า"เก็บไว้ให้ดี เป็นเงินก้นถุง"คุณหลวงก้มลงกราบรับไว้ด้วยความปีติยินดี แต่เมื่อกลับมาบ้านแล้ว ท่านนึกไปถึงเพื่อนคนหนึ่งซึ่งไปรับราชการอยู่ที่กรุงวอชิงตันอเมริกาในขณะนั้น เพราะเพื่อนผู้นี้เคยปรารภกับท่านว่าอยากได้เงินก้นถุงของหลวงพ่อโอภาสีมานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสจะได้กับเขา คุณหลวงประเสริฐคิดถึงเพื่อนผู้นั้นก็อยากจะสละเงินก้นถุงที่ตนได้มาให้แก่เพื่อนไปก่อน ด้วยคิดว่าท่านอยู่ใกล้กับหลวงพ่อ วันหน้าคงจะมีโอกาสขอได้ใหม่ ท่านจึงจัดแจงจดหมายเลขธนบัตรเอาไว้ แล้วส่งเงินนั้นไปให้เพื่อนที่วอชิงตันทันที ต่อมาอีกสามสี่วัน คุณหลวงไปนมัสการหลวงพ่ออีกครั้ง พอหลวงพ่อเห็นหน้าท่านก็หยิบธนบัตรใบละ ๑๐๐ สองใบส่งให้คุณหลวง พลางหัวเราะบอกว่า"ไม่ต้องตกใจดอกคุณหลวง เขาไปเที่ยววอชิงตันมา" ก่อนที่หลวงพ่อจะมรณภาพเพียงไม่กี่วัน พุทธสมาคมแห่งประเทศอินเดียได้นิมนต์ให้หลวงพ่อเดินทางไปร่วมประชุมสงฆ์ทั่วโลก หลวงพ่อรับนิมนต์ ทั้งได้ส่งสานุศิษย์ผู้ติดตามอันได้แก่ นายสนิท วชิรสาร กับ นายยี.อี.เอิร์ด เดินทางล่วงหน้าไปก่อนหนึ่งสัปดาห์ ส่วนหลวงพ่อจะเดินทางไปโดยลำพังในวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๔๙๘ หลวงพ่อบ๋าวเอิง ทราบข่าวว่า หลวงพ่อโอภาสีจะไปอินเดียก็จะขอติดตามไปด้วย แต่หลวงพ่อบอกว่า"ขณะนี้ท่านมีธุระมาก อย่าเพิ่งไปดีกว่า และอาตมาไปครั้งนี้ก็ไม่ต้องใช้พาสปอร์ตเหมือนคนอื่นเขา จึงให้ร่วมไปไม่ได้" ภายหลังจาก นายสนิท วชิรสาร กับ นาย ยี.อี.เอิร์ดเดินทางไปถึงอินเดีย ได้พำนักอยู่ในพุทธวิหารแห่งหนึ่ง ซึ่งทางพุทธสมาคมอินเดียจัดไว้รับรอง ครั้นเวลาเช้าตรู่ของวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๔๙๘ นายยี.อี.เอิร์ด ได้เห็นภาพของหลวงพ่อโอภาสีลอยเด่นอยู่เหนือศีรษะ ใบหน้าของท่านอิ่มเอิบสดใส ภาพนั้นปรากฏเพียงชั่วครู่ก็เลือนหายไป ครั้นตกบ่ายได้มีคนเข้ามาบอกแก่คนทั้งสองว่า มีพระแก่รูปหนึ่งรอพบอยู่ข้างนอก จึงรีบชวนกันออกไป กลับพบหลวงพ่อโอภาสียืนรออยู่ ท่านบอกว่า "ฉันมาตามคำพูด ไม่มีอะไรมาห้ามฉันได้ อย่าแปลกใจเลย" ศิษย์ทั้งสองดีอกดีใจ รีบพาหลวงพ่อเข้าไปยังพุทธวิหารพลางขอตัวเพื่อไปเอาของในห้องพักของตน เตรียมจะนำหลวงพ่อออกชมบ้านเมืองอินเดีย แต่ในขณะนั้นเอง มีบุรุษไปรษณีย์นำโทรเลขมาส่ง คนทั้งสองเปิดโทรเลขอ่านดูแล้วต้องยืนตัวแข็งเพราะข้อความมีว่า"หลวงพ่อโอภาสีมรณภาพเช้าวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๔๙๘ กลับด่วน" ประวัติหลวงพ่อโอภาสี ท่านมีนามเดิมว่า “ชวน มะลิพันธุ์” เป็นชาวจ.นครศรีธรรมราช เกิดที่ อ.ปากพนัง เมื่อปี ๒๔๔๑ เมื่อโตขึ้นได้เล่าเรียนเขียนอ่านและได้บวชเป็นสามเณรที่วัดโพธิ์ ในเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมที่ ๖ ท่านได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ญาติได้นำไปฝากไว้กับ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี ได้บวชเป็นพระภิกษุ โดยมี สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากบวชแล้ว หลวงพ่อได้ศึกษาเพิ่มเติมต่อที่วัดบวรฯ จนสอบได้เปรียญ ๕ ประโยค หลังจากนั้นท่านได้หันไปสนใจด้านวิชาอาคม และได้เดินธุดงค์ไปเรียนวิชาอาคมต่างๆ จากหลายพระอาจารย์ เป็นเวลานานเกือบ ๒๐ ปี โดยพระอาจารย์ที่ท่านได้ร่ำเรียนวิชานานที่สุด คือ หลวงพ่อกบ วัดเขาสาลิกา จ.นครนายก ทำให้ท่านดำเนินรอยตามวิชาของอาจารย์ท่าน คือ บูชาเพลิงเป็นการศึกษาเรื่องเพ่งกสินไฟ เพื่อให้จิตใจสงบนิ่ง และหลุดพ้นจากกิเลสต่างๆ ด้วยการนำสิ่งของทุกอย่างที่ได้รับมาโยนเข้ากองไฟหมด ไม่ว่าสิ่งนั้นจะมีมูลค่ามากมายเพียงใดก็ตาม ด้วยความมุ่งมั่นในวิชาที่เรียน ทำให้ท่านมีจิตใจที่กล้าแกร่ง วิชาอาคมที่ร่ำเรียนมาจึงเข้มขลัง จากการที่ท่านได้กลับมาอยู่วัดบวรฯ อีกครั้งหนึ่ง และได้ทำพิธีบูชาเพลิง ทำให้ไม่สะดวกในการประกอบพิธี เพราะเริ่มมีลูกศิษย์ที่นับถือต่างเดินทางมาหาท่านที่วัดมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนได้พบเห็นปาฏิหาริย์ต่างๆ ที่หลวงพ่อได้ช่วยเหลือในหลายๆ เรื่อง ท่านเห็นว่าเป็นการไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในวัดหลวงแห่งนี้ต่อไป จึงได้เดินทางธุดงค์ไปอยู่ที่ย่านบางมด ก็ยังลูกศิษย์ติดตามไปทำบุญกับท่านมากมายเหมือนเดิม ขณะเดียวกัน ชาวบ้านในพื้นที่ก็ให้ความเคารพนับถือหลวงพ่อมาก จึงได้สร้างสำนักสงฆ์อาศรมบางมด ขึ้นถวายท่านให้อยู่อย่างถาวรสืบไป ทำให้สำนักสงฆ์แห่งนี้เจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ จนถึงทุกวันนี้ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น วัดหลวงพ่อโอภาสี ด้วยมีผู้นับถือเดินทางมาหาขอให้ท่านช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ซึ่งหลวงพ่อได้เมตตาสงเคราะห์ให้ตามที่เห็นสมควร ผู้คนที่มาขอให้หลวงพ่อช่วยเป็นที่พึ่ง มีทั้งชาวบ้านชาวสวน รวมถึงคหบดี เจ้าสัวจากย่านเยาวราช สำเพ็ง บางลำพู ฯลฯ แม้แต่เจ้านายชั้นผู้ใหญ่ เช่น จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก็ได้ไปกราบไหว้ท่าน พร้อมทั้งร่วมทำบุญสร้างวัดกับท่านเป็นประจำ ความมหัศจรรย์ที่เกี่ยวกับหลวงพ่อโอภาสี ที่มีผู้พูดถึงกันเสมอๆ คือ การเดินทางไปปรากฏตัวในที่ต่างๆ ของหลวงพ่อ ในวันเวลาเดียวกัน มีผู้พบเห็นท่านในหลายจังหวัดพร้อมๆ กัน ทั้งๆ ที่สมัยก่อนการเดินทางไปแต่ละจังหวัดต้องใช้เวลานาน บางแห่งใช้เวลาเป็นวันก็มี เรื่องราวปาฏิหาริย์เช่นนี้มีผู้กล่าวถึงเป็นประจำหลวงพ่อโอภาสี มรณภาพเมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๔๙๘ ปัจจุบันวัดหลวงพ่อโอภาสียังมีประชาชนมากราบไหว้สรีระของท่านอยู่เสมอๆ เพื่อขอพรให้หลวงพ่อช่วยเหลือในเรื่องการค้าการขาย ซึ่งมักจะประสบความสำเร็จสมหวังเสมอ นับได้ว่าแม้ท่านจะมรณภาพไปแล้ว ก็ยังเป็นที่พึ่งของลูกศิษย์ตลอดเวลา “ เมื่อใจมีศรัทธา ปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นเสมอ “
หมวดหมู่ พระเนื้อผง / ดิน / ว่าน
ร้านพระ

โชคเจริญทรัพย์

เบอร์โทรศัพท์ 0866278195 ID LINE 0866278195
เมื่อวันที่ 2022-08-19
ยอดเข้าชม 226 ครั้ง
สถานะ โทรถาม
Scroll