หลวงพ่อเหมือน หรือพระครูอุดมวิชชากร (เหมือน อินทโชตเถร)

หลวงพ่อเป็นชาวชลบุรีโดยกำเนิด นามเดิมชื่อ เหมือน ถาวรวัฒนะ

บิดาชื่อ ตึ๋ง มารดาชื่อ ปุ่น

มารดา เป็นน้องสาวของพระครูชลโธปมคุณมุนี (หลวงพ่อเจียม) อดีตเจ้าอาวาสวัดกำแพง

      เกิดวันอังคารที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๔๓๖ ปีมะเส็ง สมัยรัชกาลที่ ๕ บรรพชาเป็นสามเณร แล้วอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๖ พระอธิการจั่น วัดเสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่ออุปสมบทได้ ๖ พรรษา ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกำแพง ต่อจากพระอธิการหมอน ซึ่งได้ลาสิกขาไปปีพ.ศ.๒๔๖๒

พ.ศ.๒๔๙๕ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูอุดมวิชชากร

พ.ศ.๒๕๐๒ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลบางปลาสร้อย เขต ๒

พ.ศ.๒๕๒๒ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งพระอุปัชฌาย์ และเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูเจ้าคณะตำบลชั้นเอก

       ท่านเป็นพระที่มีอายุยืนถึง ๕ แผ่นดิน คือตั้งแต่ รัชกาลที่ ๕ จนถึงรัชกาลที่ ๙ มีวัตรปฏิบัติดี สงบเสงี่ยม เรียบร้อย สุขุม เยือกเย็น มีเมตตาสูง

       หลวงปู่เหมือน ได้ศึกษาไสยเวทย์วิทยาคมจากหลวงปู่เจียม ผู้เป็นลุง แห่งสำนักวัดกำแพง และเป็นผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาแต่เพียงผู้เดียวจากหลวงปู่เจียม อดีตเจ้าอาวาสวัดกำแพง ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ยุคเดียวกับหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์

        ตำรับตำรา ว่าด้วยวิชาลบผงเจ็ดแท่งมหาเสน่ห์นี้ หลวงปู่เจียมได้ถ่ายทอดให้กับหลวงปู่เหมือน ไว้แต่เพียงผู้เดียว ก่อนมรณภาพ หลวงปู่เจียมท่านได้มอบผงเจ็ดแท่งมหาเสน่ห์ ไว้ให้กับหลวงปู่เหมือน

       หลวงปู่เหมือน วัดกำแพง กว่าจะนำสุดยอดวิชาผงเจ็ดแท่งมหาเสน่ห์ มาลงมือสร้างพระภควัมบดี หรือพระปิดตาเป็นครั้งแรก ก็กินระยะเวลากว่า ๓๐ ปี

       พระรุ่นแรกที่ท่านสร้างปี ๒๕๐๐ เป็นพระปิดตา และรุ่นต่อมาหลังตะแกรง พิมพ์หลวงปู่เจียม และพิมพ์หน้าหลวงปู่ภู่หลังหลวงปู่เจียม ซึ่งมีผงเจ็ดแท่งมหาเสน่ห์ ผสมอยู่จำนวนมาก

       มีเรื่องเล่าต่อๆกันมาว่า ครั้งที่มีชาวชลบุรีออกไปเสาะแสวงหาบุญ ไปทางภาคเหนือทอดกฐิน ทอดผ้าป่า และได้ไปกราบนมัสการหลวงปู่แหวน เมื่อหลวงปู่แหวนพอรู้ว่าญาติโยมเหล่านั้นมาจากชลบุรี ก็กล่าวว่า “โยม..พวกโยมมาจากชลบุรี รู้จักพระดีเมืองชลหรือไม่ ชื่อหลวงพ่อเหมือน” 

       จากนั้นก็มีเรื่องเล่าขานกันต่อมาอีกว่า หลวงปู่แหวน สุจิณโณ กับหลวงพ่อเหมือน ท่านนั่งทางในสนทนาธรรมต่อกัน ชาวชลบุรีที่ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน เมื่อได้ทราบเรื่องดังกล่าว จึงพากันมากราบนมัสการหลวงพ่อเหมือน หรือหลวงปู่เหมือนกันมากยิ่งขึ้น

       ในยุคสมัยนั้น เมื่อมีพิธีพุทธาภิเสกพระที่ใดๆ ถ้ามีหลวงปู่เหมือน ก็ต้องมีหลวงปู่โต๊ะ นั่งปรกด้วยทุกครั้ง พระปิดตาของท่านทุกรุ่นมีประชาชนหาเช่าไปบูชา ส่วนเหรียญรูปเหมือนของท่านนั้น ทุกครั้งที่มีการปลุกเสกสร้างขึ้นมา ไม่ว่ามีจำนวนเท่าใด ก็มีประชาชนมาเช่าไปบูชาหมดก่อนทุกครั้ง

        ท่านเป็นผู้มีคุณูประการต่อการศึกษาของลูกหลานชาวชลบุรีเป็นอย่างมาก เป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนวัดกำแพง ก่อตั้งมูลนิธิพระครูอุดมวิชชากร เพื่อนำดอกผลอันมาจากที่ดินรวมถึงทรัพย์สินของวัด มาห้การสนับสนุนการศึกษาแก่ กุลบุตร กุลธิดาของเหล่าญาติโยม เป็นองค์อุปถัมภ์ยุวพุทธิกสมาคมชลบุรี มาแต่ยุคเริ่มก่อตั้ง เป็นพระเกจิอาจารย์ในยุคปีพ.ศ. ๒๕๐๐ ที่รับหน้าที่ปลุกเสกประพรมน้ำพระพุทธมนต์ตอนปีใหม่รวมถึงวัตถุมงคลแก่ชาวชลบุรีทุกปี มาเป็นเวลาอันยาวนาน

      วัตถุมงคลของหลวงปู่เหมือน มีพุทธคุณสูงล้ำ ทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด โชคลาภ ค้าขาย จึงเป็นที่เสาะแสวงของชาวชลบุรี ชาวภาคตะวันออก และชาวจังหวัดอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระปิดตาปีพ.ศ. ๒๕๐๐ และเหรียญรุ่นแรกซึ่งเสาะแสวงหาบูชาได้ยากยิ่ง

หลวงพ่อมรณภาพ วันพฤหัสบดี ๒๓ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๒๗