พระชัยวัฒน์ พิมพ์หน้าเดียว เนื้อโลหะผสมวรรณะเหลืองอมเขียว ผิวโลหะ แห้งเก่าตามอายุ มีคราบฝุ่นความเก่าติดตามซอกๆ แม้พระจะผ่านกาลเวลามานานกว่า๗๐ปี แต่ก็ยังสวย ถูกหล่อออกมาได้ลึกคมชัด เห็นเม็ดพระเนตร พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์เป็นร่องลึก และเม็ดพระศกแทบจะครบทุกเม็ด พระจำนวนน้อยมากที่สภาพสวยสมบูรณ์มีครบทุกอย่างแบบนี้ บอกได้เลยว่าหายากครับ

ท่านใดที่อยากได้พระชัยวัฒน์ของท่านเจ้ามา แต่ยังหาไม่ได้หรือสู้ราคาไม่ไหว พระชัยของพระครูสอนสามารถใช้บูชาแทนกันได้ครับ ราคาก็ยังไม่แพงจนเกินไป ยังพอหาได้ครับ เป็นพระที่มีประสบการณ์มานานตั้งแต่สมัยสงครามอินโดจีน แต่ราคาถูก และไม่ได้ถูกกล่าวถึงมานาน ซึ่งเป็นพระที่คนทั่วไปสามารถเช่าหากันได้อย่างสบายกระเป๋าครับ

             วัดมักกะสัน เป็นชื่อเดิมของ "วัดดิสหงสาราม" ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม. เมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๘๔ ซึ่งเป็นช่วงมหาสงครามเอเชียบูรพา กำลังคุกรุ่น วัดมักกะสันได้สร้างวัตถุมงคลออกแจกจ่ายแก่ทหารที่เตรียมออกรบตามคำร้องขอของทางราชการในสมัยนั้น เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ทหารหาญ ตำรวจ และประชาชนที่อยู่ในระหว่างเกิดความวิตกกังวลถึงพิษภัยแห่งสงครามในขณะนั้น

พระเกจิอาจารย์ในสมัยนั้นจึงมีการสร้างวัตถุมงคลกันอย่างมากมาย เรียกว่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เพราะบรรดาพระเกจิอาจารย์ดังต่างๆ ได้รับการร้องขอให้สร้างเครื่องรางของขลังวัตถุมงคลกันอย่างทั่วหน้า เพื่อเป็นที่ยึดมั่นทางจิตใจให้ชาวบ้านได้อบอุ่นใจกันอย่างทั่วถึง

        พระครูสอนวัดมักกะสัน ซึ่งเป็นศิษย์ผู้ใกล้ชิดของ ท่านเจ้ามา วัดสามปลื้ม จึงได้จัดสร้าง พระชัยวัฒน์ ขึ้นแจกจ่ายเป็นครั้งแรกในปี ๒๔๘๔ โดยได้เจริญรอยตาม "ท่านเจ้ามา" ผู้เป็นอาจารย์ ซึ่งสังเกตได้จากลักษณะของพระชัยวัฒน์ ที่ “พระครูสอน” สร้างมีรูปลักษณ์คล้ายพระชัยวัฒน์ของ “ท่านเจ้ามา” มาก หากดูลักษณะโดยรวมแล้วจะคล้ายกับพิมพ์พระชัยวัฒน์ ท่านเจ้ามา พิมพ์เศียรทุย ผิดกันที่เนื้อหาและรายละเอียดของพิมพ์ทรง ซึ่งพระชัยวัฒน์พระครูสอน เป็นพระหล่อเนื้อโลหะแก่ทองเหลือง องค์พระประทับนั่งปางสมาธิ บนอาสนะฐานเขียง แบ่งออกเป็น ๒ พิมพ์ คือ พิมพ์หน้าเดียว และพิมพ์สองหน้า

เป็นที่สังเกต คือ พิมพ์ ๒ หน้า ส่วนของฐานล่างจะบางและแบนกว่าพิมพ์หน้าเดียว พิมพ์หน้าเดียวฐานจะหนากว่า เศียรค่อนข้างใหญ่

ขอบพระคุณข้อมูลจาก

หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก วันพฤหัสบดีที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๖