ติดที่4 สภาพสวย เหรียญพ่อท่านเขียว วัดหรงบล รุ่นแรก 2บี้ 3แบน นิยมสุด *พร้อมตลับเพชร* ตลับทำมา 7 หมื่นกว่าๆ บาท ติดที่ 4 งานประกวด ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ (โซนบี) แจ้งวัฒนะ 06-08-66 จัดโดย องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ ใบประกาศรอประมาณ 90 วัน จัดส่งให้ตามหลัง ***พ่อท่านเขียว เหนียวยันกระดูก เหรียญมากประสบการณ์ ( พุทธคุณ เด่นทางด้านคงกระพันชาตรี ) ในระหว่างระยะเวลาที่ "หลวงพ่อท่านเขียว" ได้ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาลําเนาไพร ผ่านจังหวัดต่างๆในบริเวณภาคใต้ของไทยนั้น มีอยู่วันหนึ่งที่ หลวงพ่อท่านเขียว ได้อธิษฐานจิต แล้วเอามือทั้งสองกดลงบนหิน ภายในถ้ำเพื่อ "ทดสอบพลังจิต" จึงปรากฎว่า หินนั้นได้ยุบตัวลงไปเป็นรอบนิ้วมือทั้งสิบนิ้ว ซึ่งในขณะนั้นมีสามเณรน้อยรูปหนึ่ง ได้ติดตามท่านไปด้วยและได้แลเห็นโดยตลอดจึงเดินเข้าไปพิจารณาดูอย่างใกล้ชิด หลวงพ่อท่านเขียว จึงสั่งห้ามสามเณรน้อยห้ามนำเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นไปบอกกับใครโดยเด็ดขาด ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่บังควร หากใครได้รับรู้รับทราบคงจะติเตียนไม่เชื่อสามเณรรูปน้อยรูปนั้นเป็นแน่ ภายหลังจากที่ได้ กำชับสามเณรน้อยให้ปฏิบัติตามสัจจะเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของสามเณรน้อยรูปนั้นเอง จากนั้นไม่นาน หลวงพ่อท่านเขียวก็เดินทางกลับมาที่วัดหรงบน ด้วยปิติสุขอย่างเปี่ยมล้น เรื่องราวอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่อมา เป็นเรื่องราวของชาวบ้าน ชื่อ นายบรรจบ บ้านดอกตก ตำบลไสหมาก อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยคนร้ายจำนวนเจ็ดคน บุกเข้าปล้นวัวภายในบริเวณบ้าน กลางดึกของคืนวันหนึ่ง นายบรรจบ เมื่อรู้ตัวเกิดความเสียดาย แต่ภายในบ้านก็ไม่มีอาวุธอะไรไปต่อกรกับคนร้ายที่มีมากกว่า จึงตัดสินใจหยิบผ้ายันต์รอยเท้ารอยมือของหลวงพ่อท่านเขียว ขึ้นจบขอบารมีอธิษฐานให้ความคุ้มครอง แคล้วคลาดปลอดภัย แล้วตัดสินใจคว้ามีดพร้าด้ามยาว ที่วางไว้ข้างเสาเรือน กระโดดลงเรือนตรงเข้าไล่ฟันคนร้ายที่กำลังจูงวัวออกไปห้าตัว แต่ก็มีคนร้ายคนหนึ่งหันหลังกลับมา ใช้อาวุธปืนลูกซองยาวกระหน่ำยิงใส่นายบรรจบ จนหัวทิ่มกระเด็นลงไปนอนบนพื้น แต่ทว่ากระสุนปืนลูกซองกลับไม่ระคายผิวหนัง มีแต่ฟกช้ำเท่านั้น นายบรรจบเห็นเช่านั้น จึงเกิดความเชื่อมั่นในพุทธคุณของผ้ายันต์รอยมือรอยเท้าของหลวงพ่อท่านเขียว จึงวิ่งเข้าใส่คนร้ายซึ่งเป็นการเสี่ยงชีวิต หากพลาดก็ตาย เพราะข้างฝ่ายนายบรรจบมีคนเดียวกับ กลุ่มคนร้ายถึงห้าคน แล้วนาทีระทึกใจก็มาถึง เมื่อคนร้ายรวมตัวกันระดมยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาวพร้อมๆกัน ถูกนายบรรจบ ถึงกับหงายท้องตีลังกา แต่กระสุนปืนก็ไม่ระคายผิวอีกเช่นกัน นายบรรจบพยายามรวบรวมสติว่า หากขืนตามไปคนเดียวอาจถูกโจรยิงซ้ำอีก และคงเดินไม่ไหวเป็นแน่ จึงวิ่งกลับบ้านตีเกราะเคาะไม้เรียกเพื่อนบ้านมาช่วย เพราะกลัวว่าคนร้ายอาจย้อนรอยมาฆ่าอีก เมื่อชาวบ้านมารวมตัวกัน นายบรรจบ จึงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของผ้ายันต์ ให้กับเพื่อนบ้านได้ฟัง หลังจากนั้นชาวบ้านจึงแห่กันไปที่วัด เพื่อขอบูชาผ้ารอยมือรอยเท้าไว้ป้องกันภยันอันตรายนั้นเองครับ ต่อมานั้นจะเป็นเรื่องของประเพณีของชาวภาคใต้ที่นิยมกันมาก นั้นก็คือ การชนวัว เจ้าของวัวเขตเชียรใหญ่ และปากพนัง มักจะเอา ลูกอมของหลวงพ่อท่านเขียว ละลายน้ำกรอกให้วัวกิน เมื่อใดที่เข้าสนามชน วัวกลางทุ่งไม่ว่าจะเป็นสนามใหญ่ เมื่อถูกวัวคู่ต่อสู้แทงอย่างไรก็ตาม นั้นไม่เคยแทงเข้า มักจะเอาชนะได้เสมอ ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลกอีกด้านหนึ่งครับในพุทธคุณของลูกอม อีกประการ บุตรหลายหรือผู้ใหญ่หากกินเนื้อปลาก้างติดคอ ชาวบ้านจะเอาลูกอมอาราธนาขอบารมีหลวงพ่อท่านเขียว แช่น้ำเพื่อเป็นน้ำมนต์ให้ดื่มกิน ในเวลาไม่กี่นาทีก้างปลาก็จะหลุดออกทันที มีเรื่องเล่ากันว่า มีหญิงชาวหัวไทรป่วยมานานถึงเจ็ดปี พูดไม่ได้เสียสติญาตินำใส่เรือไปหาท่านที่วัด เอ่ยปากขอความเมตตาจากหลวงพ่อท่านเขียว ให้ท่ายช่วยรักษาคนป่วย เนื่องจากขายนาขายสวน จนหมดเงินไปมากโขแล้วก็ยังไม่หายดี หลวงพ่อท่านเขียว เห็นเข้าเกิดเวทนาสงสาร คายชานหมากใส่ขันน้ำมนต์ แล้วสาดลงบนตัวผู้ป่วยล้มชักดิ้นชักงอต่อหน้าพระเณรในวัดและบรรดาญาติผู้ป่วย แต่ยังไม่ทันไร ท่านก็ตักน้ำมนต์อีกขันสาดซ้ำสองผู้ป่วยนอนนิ่งสงบเงียบหยุดชงัก จนเวลาผ่านไปราวๆ 4 - 5 นาที คนป่วยค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งได้ อ้าปากขึ้นพูดช้าๆ มีความรู้สึกเฉกเช่น คนธรรมดา กลับคืนมาอีกครั้ง แล้วก้มลงกราบ หลวงพ่อท่านเขียว ด้วยความเคราพศรัทธา ต่อมาผู้ป่วยรายนั้นก็ทำบุญที่วัดหรงบนติดต่อกันหลายปี จู่ๆก็หายตัวไม่มีใครพบเห็นอีกเลย สุดท้ายในสมัยที่หลวงพ่อท่านเขียวยังมีสังขารก่อนกาลมรณภาพ ประมาณ 1 ปี ท่านได้สั่งเสียบอกกล่าวแก่ศิษยานุศิษย์ด้วยทิพย์จักษุแห่งญาณสมาบัติ อันสูงส่งยิ่งจวนจนหลวงพ่อท่านมรณภาพลง สิ่งที่ปรากฎขึ้นต่อหน้าสานุศิษย์ นั้นคือ ***ร่างกายไม่เน่าแข็งแกร่งคล้ายคงรูปร่าง เป็นถาวรชั่วนิจนิรันดรเปื่อย*** หลวงพ่อท่านเขียว "ร่างกายไม่เน่าเปื่อย สภาพศพ แข็งแกร่งคล้ายคงรูปร่างเป็นถาวรชั่วนิจนิรันดร" และในวันประชุมเพลิง พระเพลิงใต้ลุกโหมอย่างโชติช่วง แต่ร่างกายของท่าน หาได้เผาไหม้ ไม่ สิ่งที่ปรากฎเด่นชัดคือ จีวรที่ห่อหุ้มร่างกาย ไฟมิได้แตะต้องให้หมองคล้ำอีก ทั้งเส้นผมยังคงสภาพเดิมทุกประการ นอกจากนี้ลูกอมชานหมากสีผึ้ง ก็กลับกลายสภาพเป็นโลหะแข็ง ฟันของท่าน ที่ได้มอบให้ศิษยานุศิษย์ให้เก็บรักษาไว้หลายปี กลับงอกขึ้นเปลี่ยนสภาพเป็นธาตุของพระอรหันต์ นับได้เก้ายอด*** ..พ่อท่านเขียว เกจิชื่อดัง แห่งจังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดเมื่อปี พ.ศ.2424 อุปสมบทที่วัดคงคาวดี และได้บวชเรียนร่ำเรียนวิชาสำนักเดียวกันกับพระครูนนท์ และได้ร่วมปลุกเสกเหรียญรุ่นแรกของพระครูนนท์ ซึ่งเป็นเหรียญที่มีพุทธคุณสูง และมีชื่อเสียงอีกเหรียญหนึ่งแห่งเมืองนครศรีธรรมราช พ่อท่านเขียวมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. 2519 สิริรวมอายุได้ 95 ปี พรรษาที่ 74 ทางวัดได้ทำพิธีเผาสรีระพ่อท่านเขียว แต่ปรากฏว่าเป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง เพราะว่าไฟไม่ได้ไหม้สรีระของพ่อท่านเขียวแม้แต่น้อย และทุกวันนีสรีระของท่านก็ยังได้บรรจุไว้ในโรงแก้วให้ยานุศิษย์จากทุกสารทิศต่าง ๆ ที่นับถือศรัทธาท่านได้ไปกราบไหว้ ซึ่งสรีระของท่านไม่เน่าไม่เปื่อย เป็นที่อัศจรรย์อย่างยิ่งครับ สำหรับเหรียญรุ่นแรกพ่อท่านเขียว วัดหรงบล จ.นครศรีธรรมราช จัดสร้างโดยท่านพระอาจารย์ขำ แห่งวัดหงส์แก้ว ขออนุญาตพ่อท่านเขียวจัดสร้าง จำนวน 5,000 เหรียญ ซึ่งมีเนื้อทองแดงกะไหล่ทองอย่างเดียว และนำถวายพ่อท่านเขียวไว้สำหรับแจกแก่ศิษยานุศิษย์จำนวนหนึ่ง พุทธคุณ : ทางด้านอยู่ยงคงกระพัน ป้องกันศาสตราอาวุธร้ายนานาประการ และด้านหลังเรียนลงอักขระยันต์มหาอุด อุดธัง อัดโธ ล้อมรอบด้านนอก และได้ในผืนยันต์ ซึ่งเปรียบเสมือนมีเกราะแก้วคุ้มกำบังภยันตรายได้เป็นอย่างดี..
โทร. 086-7352856 / 088-982-2899 Line ID : Manver |